หลังจากใช้งาน Grado SR-80i มาได้ประมาณ 2 ปี ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนหูฟังอันใหม่ ที่เปลี่ยนก็เพราะว่าย้ายที่นั่งกันที่ออฟฟิศ มีเสียงในที่ทำงานเยอะขึ้น แล้ว SR-80i นั้นมีเสียงลอดค่อนข้างมาก (โดยเฉพาะลอดเข้ามาตอนฟังเพลง) อีกอย่างนึงคือผมยังมีอาการเจ็บหูใบอยู่บ้างตอนใช้ SR-80i ซึ่งเป็นแบบ on ear ทับบนใบหูเป็นเวลานานๆ จนคิดว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่แล้วล่ะ
Update 2018: เนื่องจากรีวิวนี้ผมเขียนตั้งแต่ปี 2015 เลยอัพเดทเพิ่มรีวิวหลังจากใช้งานมาแล้ว 3 ปีกว่าๆ ดูได้ด้านล่างครับ
ลักษณะการใช้งานของผมคือฟังเพลงเป็นหลัก ฟังเกือบทุกแนวยกเว้นเพลง hip hop, แนวตึ๊บๆ กับลูกทุ่งก็ไม่ได้ฟัง .. แล้วก็เคยใช้ทำเพลงใน Garageband กับอัดเสียงกีต้าร์เล่นๆ ที่บ้านด้วย ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้วครับ
หลังจากหาข้อมูลอยู่พักนึง ก็ได้หูฟัง Audio-Technica ATH-M50x เป็นหูฟังตัวล่าสุดที่ผมเลือกซื้อมาใช้ครับ ไม่เคยใช้ brand นี้มาก่อน แต่ดูจาก review ใน YouTube แล้วเสียงตอบรับค่อนข้างดี บางเจ้าถึงกับยกให้เป็นหูฟังที่ดีที่สุดในราคาไม่เกิน $200 (ประมาณ 7 พันบาท) กันเลยทีเดียว ผมเองก็ได้ไปลองฟังเสียงของ M50 (รุ่นก่อนหน้า) แล้วรู้สึกชอบด้วย ก็เลยเลือกตัวนี้ครับ
M50x ต่างจาก M50 ที่เห็นได้ชัดคือสายหูฟังให้มา 3 แบบ และถอดเปลี่ยนได้ นอกนั้นก็เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
หูฟังตัวนี้ซื้อมาจากร้าน Munkonggadget.com ส่งตรงมาถึงเชียงใหม่ครับ
คุณภาพวัสดุ
Audio-Technica เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น แต่ M50x นี้ผลิตที่ประเทศไต้หวันครับ งานประกอบดีมาก เนี้ยบดีตั้งแต่กล่องยันหูฟัง งานประกอบแน่นหนาดีมาก ไม่อยากจะอวยเลย แต่ชอบจริงๆ
ฟองน้ำครอบหูบุหนังดูดีเลยทีเดียว
สายหูฟัง 3 แบบที่ให้มานั้นก็มี
- สายขด (coiled cable) ยาว 3 เมตร
- สายตรง (straight cable) ยาว 3 เมตร
- สายตรง ยาว 1.2 เมตร
ผมเก็บ coiled cable ไว้ใช้ที่บ้าน สายตรงยาว ไว้ใช้ประจำที่ออฟฟิศ ส่วนสายตรงสั้น เอาติดถุงไว้ เผื่อใช้กับโทรศัพท์หรือ laptop ครับ สายของ M50x มีตัวล็อกเฉพาะของ Audio-Technica เวลาใส่ต้องหมุนนิดนึงเพื่อให้เข้าล็อก ข้อดีของการหมุนล็อกนี้ก็คือไม่ต้องกลัวหลุดเวลาเสียบฟังอยู่ ส่วนข้อเสียก็คือจะใช้สายของยี่ห้ออื่นไม่ได้ครับ
ในกล่องมีตัวแปลงแจ็คจาก 3.5mm เป็น 6.3mm มาให้ด้วย ใช้ได้กับเฉพาะสายยาว 3 เมตร ส่วนสาย 1.2 เมตรนั้นใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีเกลียวหมุน
ความสบายตอนสวมใส่
เทียบกับ SR-80i แล้วถือว่า M50x หนักกว่าพอสมควร ใส่ตอนแรกๆ ก็รู้สึกว่ามันหนัก ตอนนี้ก็เริ่มชินแล้วครับ ฟองน้ำบุหนังนั้นก็ถือว่านุ่มเลยทีเดียว ครอบหูได้ทั้งใบ (ส่วนเรื่องเจ็บใบหูนั้นหายไปเลย เพราะไม่กดหูแล้ว) ด้วยความที่เป็นหูฟังแบบปิด จะมีความร้อนสะสมบ้างเมื่อใส่นานๆ แต่ก็แค่อุ่นๆ ครับ ไม่ถึงกับร้อน พักแป๊ปเดียวก็หาย
M50x ไม่ใช่หูฟังประเภทตัดเสียงรบกวน (noise cancelling) แต่ก็สามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ค่อนข้างเยอะ (noise isolation ดีมาก) ถ้าใส่หูฟังเฉยๆ ไม่เปิดเสียงอะไรเลย จะรู้สึกเหมือนหูอื้อ เพราะว่าไม่ค่อยได้ยินเสียงตัวเอง แต่พอเปิดเพลงแล้วก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากภายนอกเลย ปกติผมก็จะเปิดเพลงไว้ตลอดเวลา ถึงแม้ไม่ได้ฟังก็ตาม เพราะถึงเวลาอยากปิดสวิตช์ noise รอบตัว ก็แค่หยิบหูฟังมาใส่หูได้เลย
เสียง
ตอนที่ซื้อ SR-80i ผม burn ก่อนใช้จริงนานมาก (500+ ชั่วโมง).. ส่วน m50x ตัวนี้ผมไม่ได้ burn ก่อนใช้งานเลย เพราะตอนออกจากล่องมา เสียงมันก็ค่อนข้างดีอยู่แล้ว .. (นี่เหมือนจะอวยอีกแล้วนะ) แกะกล่องออกมา เช็คของ แล้วก็ลองฟังเลย พบว่าเสียงมันไม่ต่างกับตัว M50 ที่ไปลองที่ร้านมาก ก็เลยไม่ burn ฟังมันทั้งยังงั้นแหละ
M50x เป็นหูฟังประเภท Studio Monitor ซึ่งหูฟังประเภทนี้มักใช้กันในห้องอัด หรือกับงานใน studio ที่ต้องการรายละเอียดของเสียง และความเที่ยงตรงเป็นหลัก ซึ่งผมชอบมากเพราะทำให้ได้ยินรายละเอียดของเครื่องดนตรีที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในเพลงที่ฟังอยู่ทุกวัน หรือทำให้ได้ยินดนตรีในแบบที่ใกล้เคียงกับที่นักดนตรีทำมาจริงๆ มากขึ้นกว่าเดิม
แนวเสียงจะเป็นโทนกลางๆ ไม่เน้นไปทางทุ้มหรือแหลม แต่ให้รายละเอียดเสียงดนตรี รวมไปถึงตำแหน่งการวางเครื่องดนตรีในเพลงได้ชัดเจนมาก ทำได้ดีกว่า SR-80i อยู่เยอะพอสมควร ถ้าใครชอบเสียงแนว Grado อยู่แล้ว ก็น่าจะชอบ M50x เหมือนกันครับ แต่ถ้าชอบฟังเพลงเฉพาะบางแนวเป็นพิเศษ เน้นเบส หรือเน้นเสียงแหลมอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ไม่แนะนำนะ
Update: หลังจากใช้งานมาแล้ว 3 ปี - หนังแตกลายงา
ผ่านไป 3 ปีกว่าๆ M50x ยังเป็นหูฟังเพียงตัวเดียวที่ผมใช้เป็นประจำเกือบทุกวัน เรื่องเสียงนั้นยังไว้ใจได้หายห่วงเหมือนเดิม ส่วนวัสดุที่เสื่อมสภาพคือฟองน้ำหุ้มหูฟังซ้าย-ขวา (earpads) กับส่วนที่คาดเหนือศีรษะซึ่งเป็นหนังหุ้มไว้ พอมันเริ่มเก่า หนังก็แตก และตกสะเก็ดหลุดออกมา ติดหูติดแก้มอยู่เรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่มีผลกับเสียง แต่ก็กวนใจอยู่เป็นระยะ
ลองหาดูในเน็ต ก็คิดว่าเป็นกันทุกคนครับ ไม่ช้าก็เร็ว (รวมถึงรุ่นอื่นๆ อย่าง M40x, M30x และ M20x ด้วย)
ด้านหลังก็ขาดเป็นรู
ส่วนที่คาดหัวก็เริ่มแตก
ซึ่งฟองน้ำครอบหูฟังของ M50x (และรุ่นอื่นในซีรี่ส์เดียวกัน) นั้นมันถอดเปลี่ยนได้
ผมสอบถามไปที่ร้านมั่นคงแกดเจ็ต พร้อมกับในเพจ Audio-Techica Thailand ได้คำตอบมาว่า เฉพาะตัว earpads นั้น ในบ้านเราไม่มีขายแยกครับ .. (ถามไปเมื่อกลางปี 2017 ไม่แน่ใจว่าตอนนี้จะมีหรือยังนะ)
ผมลองซื้อแบบถูกๆ จาก AliExpress ที่มีให้เลือกเยอะมาก มาลองเปลี่ยนดูอยู่ 2-3 คู่ เสียงแย่กว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ทั้งแบบที่เป็นผ้ากำมะหยี่ และแบบที่เป็นหนัง เสียงก็ดีไม่เท่าของเดิม
แค่ earpads ผิด หูฟังดีๆ ก็เน่าไปเลย
ใน Amazon มีฟองน้ำของแท้ขายแบบนี้: Audio-Technica HP-EP ผมดันโชคดีที่มีเพื่อนที่ทำงาน เป็นธุระหิ้วมาให้จากอเมริกาได้ (ก็เลยฝากหิ้วมาแล้วเปลี่ยนเอง ส่วนตรงที่คาดหัวก็ยังปล่อยมันแตกลายงาต่อไปอยู่ ยังไม่รู้จะซ่อมยังไง)
สำหรับใครที่เจอปัญหาแบบเดียวกัน ถ้ายังอยากได้เสียงแบบเดิมแต่หาฟองน้ำ HP-EP ของแท้ไม่ได้ แนะนำว่าทนใช้ฟองน้ำเดิมจนกว่ามันจะใช้ต่อไม่ได้ จนกว่าจะสลายเป็นผุยผง ไม่ต้องหาของก็อปมาเปลี่ยน ผมว่าไม่คุ้มครับ
แต่ถ้าใครที่หาฟองน้ำ HP-EP ของแท้ได้ แนะนำว่าให้ซื้อเก็บไว้เลยครับ แล้วมาชี้เป้าให้ผมด้วย ผมจะไปซื้อ!
(note: มีพี่คนนึงสังเกตว่า ฟองน้ำ HP-EP ที่มีขายนั้นเป็นคนละแบบกับที่ติดมากับ M50x แต่เป็นแบบของรุ่นต่ำว่าอย่าง M40x ลงไป ผมเองมองไม่เห็นความแตกต่างเนื่องจากของเดิมมันพังไปแล้ว แต่ก็ลองไปตามอ่านดูได้ครับ: What’s the Deal with Audio-Technica’s M-Series Ear Pads?)
สรุป
ชอบ
- วัสดุกับงานประกอบดีมาก ดูดี ที่สำคัญ แข็งแรง
- ให้เสียงดนตรีกว้างอย่างแม่น้ำ amazon รายละเอียดดนตรีในเพลงมาเต็ม
- ถอดสายได้ พับตัวหูฟังได้ เก็บในถุงง่าย
- สวมใส่สบาย ใส่นานๆ ได้ ไม่เจ็บหูแล้ว
meh:
- หนัก (หนักกว่า SR-80i เยอะพอสมควร) .. แต่เดี๋ยวก็ชิน
- สายหูฟังทั้ง 3 แบบ เส้นเล็กกว่า และไม่ถึกเท่าของ Grado
- ขั้วล็อกสายกับหูฟังเป็นแบบเฉพาะ
- ปัญหาหนังหุ้มฟองน้ำลอก
ปล.
- ใน YouTube มีรีวิว M50x อยู่ค่อนข้างเยอะ แต่รีวิวของ MKBHD ทำให้ผมตัดสินใจเลือก M50x ครับ
- M50x มีรุ่น Limited Edition อีก 2 รุ่นคือสีน้ำตาล กับสีเขียวเข้ม สวยดี แต่แพงกว่ารุ่นปกติ
- ในซีรีส์นี้ยังมีรุ่นอื่นๆ อีกตั้งแต่ M20x, M30x, M40x ไปถึง M70x ที่เพิ่งออกมาใหม่
- ตอนนี้เห็นว่ามี M50xBT ที่เป็น M50x เวอร์ชั่นไร้สายออกมาแล้ว